วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

ประวัติส่วนตัว

                                                                    ประวัติส่วนตัว
                                               นาย  นันทชัย  บุญเสริม ชั้น ม.4/2   เลขที่ 2
                                                      อาจารย์ ธันยาภรณ์  ศักดิ์รามินทร์

การทำขนมครก

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558

ประโยชน์การทำขนมครก

ขนมไทย
          ในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่างานทำบุญ เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร ส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วยฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาจุ๋มจิ๋ม ประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม


ขนมไทยดั้งเดิม มีส่วนผสมคือ แป้ง น้ำตาล กะทิ เท่านั้น ส่วนขนมที่ใช้ไข่เป็นส่วนประกอบ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน นั้น มารี กีมาร์ เดอ ปีนา (ท้าวทองกีบม้า)หญิงสาวชาวโปรตุเกส เป็นผู้คิดค้นขึ้นมา
ขนมไทยที่นิยมทำกันทุกๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่างๆ เนื่องในการทำบุญเลี้ยงพระ ก็คือขนมจากไข่ และมักถือเคล็ดจากชื่อและลักษณะของขนมนั้นๆ งานศิริมงคลต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส ทำบุญวันเกิด หรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะมีการเลี้ยงพระกับแขกที่มาในงาน เพื่อเป็นศิริมงคลของงานขนมก็จะมีฝอยทอง เพื่อหวังให้อยู่ด้วยกันยืดยาว มีอายุยืน ขนมชั้นก็ให้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เฟื่องฟู ขนมทองเอกก็ขอให้ได้เป็นเอก เป็นต้น
        ขนมไทย มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยคือ มีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน สีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีการรับประทานที่ปราณีตบรรจงของขนมแต่ละชนิด ซึ่งยังแตกต่างกันไปตามลักษณะของขนมชนิดนั้นๆ

ของที่ต้องเตรียมทำขนมครก

ส่วนผสม ตัวแป้ง

           แป้งข้าวเจ้า 1 1/4 ถ้วย

           ข้าวสุก 1/3 ถ้วย

           น้ำตาลทราย 1/8 ถ้วย

           เกลือสมุทร 1 ช้อนชา

           น้ำปูนใส 1/4 ถ้วย

           หัวกะทิ 1 ถ้วย

           หางกะทิ 1/2 ถ้วย

 ส่วนผสม หน้ากะทิ

          หัวกะทิ 3/4 ถ้วย

          น้ำตาลทราย 1/8 ถ้วย

          เกลือสมุทร 1/4 ช้อนชา

          แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนโต๊ะ

 ส่วนผสม หน้าขนมครก

           ต้นหอมซอย

          เผือกหั่นเต๋าเล็ก ๆ 

          เม็ดข้าวโพด

           น้ำมันพืชสำหรับทาเบ้าขนมครก

 วิธีทำแป้งขนมครก


           นำส่วนผสมตัวแป้ง (แป้งข้าวเจ้า ข้าวสุก น้ำตาลทราย เกลือสมุทร น้ำปูนใส หัวกะทิ และหางกะทิ) ไปปั่นด้วยเครื่องปั่นจนละเอียดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว


           เทส่วนผสมใส่ภาชนะแล้ววางพักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที 

 วิธีทำหน้ากะทิขนมครก


           ผสมหัวกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือสมุทรเข้าด้วยกัน คนผสมจนน้ำตาลทรายละลายแล้วค่อย ๆ ใส่แป้งข้าวเจ้าลงไป คนผสมให้ละลายเข้ากันดี เตรียมไว้

 วิธีทำขนมครก


           นำเบ้าขนมครกขึ้นตั้งใฟให้ร้อน ใช้ไฟกลาง ทาน้ำมันให้ทั่วหลุมแล้วตักแป้งหยอดแลงไปลงไปประมาณ 3/4 ของหลุม

           พอแป้งเริ่มเซตตัว ตักส่วนผสมหน้ากะทิหยอดทับทิลงไปให้เต็ม 

           ปิดฝาขนมครกแล้วรอให้แป้งเริ่มสุก

           พอขนมเริ่มสุก เปิดฝาโรยหน้าด้วยเผือก ข้าวโพด และต้นหอมซอย (สูตรนี้ใช้วิธีโรยรวม ๆ กัน 3 in 1 ในเบ้าเดียวกัน)







           เมื่อขนมสุกใช้ช้อนแคะขนมออกจากเบ้า จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ (เรานำเบ้าขนมครกไปบ่มน้ำมันล่วงหน้า 2 วันแล้วนะคะ ขนมก็ยังติดเบ้าค่ะแคะยากมาก) 

          วันหยุดไหนที่ว่าง ๆ คุณพ่อคุณแม่ก็ดึงสมาร์โฟนออกจากมือลูกแล้วจูงมือกันมาทำขนมครกกินกันดีกว่าเนอะ

วิธีการทำขนมครก

ตร.... ตัวขนมครก ..

          แป้งข้าวเจ้าตราชัางสามเศียร           400     กรัม
          แป้งข้าวเหนียวตราช้างสามเศียร         50     กรัม
          น้ำกะทิ                                         3     ถ้วย
          น้ำร้อนจัด                                      4     ถ้วย

วิธีทำ

           เริ่มด้วย...เทแป้งข้าวเจ้า 400  กรัม  ใส่อ่างผสมค่ะ 


           ตามด้วยแป้งข้าวเหนียว  50  กรัม 


          ค่อย ๆ  เท น้ำกะทิตามลงไป   3  ถ้วย 


           คนแป้ง เบา ๆ มือนะคะ ใส่น้ำร้อน  4  ถ้วย ตามได้เลยค่ะ


          เมื่อใส่ส่วนผสม ทุกอย่างครบแล้ว คนแป้ง อย่างรวดเร็วนะคะ ....เพื่อให้ส่วนผสมทุกอย่าง  ละลายเข้ากันค่ะ 



สูตร...หน้าขนมครก ..

          หัวกะทิ               3     ถ้วย
          น้ำตาลทราย         2     ถ้วย
          เกลือ                  2     ช้อนชา

วิธีทำ

          เทน้ำตาล ใส่อ่างผสมค่ะ 


           ตามด้วยเกลือค่ะ 


           จากนั้น เทหัวกะทิ คนส่วนผสมทุกอย่าง... ให้ละลายเข้ากัน.. เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ 


           นำถาดขนมครก ยกขึ้นตั้งไฟค่ะ เปิดไฟอ่อน ๆ นะคะ ใช้น้ำมันใหม่ ๆ  ขอย้ำ..ต้องน้ำมัน ใหม่ ๆ นะคะ เช็ดให้ทั่วทุกหลุมขนมครกเลยค่ะ 


           ดูซิคะ  เอาไว้โรย  หน้าขนมครกค่ะ.... แจ่ม...จ๋วย ...แจ๋ว ..น่าเจี๊ยะ...ไหมคะ ??? มีฝอยทอง  เผือก  ข้าวโพด  ต้นหอม .. 


           พอถาด ขนมครก เริ่มร้อน... สังเกตว่ามีควันขึ้นเล็กน้อย... ตักแป้งตัวขนมครก หยอดได้เลย 


           ..เวลา หยอดแป้งตัวขนมครก อย่าให้เต็มหลุมนะคะ.. เหลือไว้ หยอดหน้าขนมครกค่ะ.. 


           หยอดไปได้ สัก  6-7  หลุม ต้องรีบกลับมาหยอดหน้าขนมค่ะ เพราะถ้าปล่อยให้แป้งตัวขนมสุก.. หน้าขนมที่เป็นหัวกะทิ.. จะไหล...หก..ตกทิ้ง..  น่าเสียดายค่ะ 


           เรามาโรยหน้าขนมครกกันเลยค่ะ เมื่อโรยหน้า ขนมตรบแล้ว.. ปิดฝา...นั่งรอ..จินตนาการกันนะคะว่า จะไหม้...เอ้ย..ขออภัยค่ะ .. จะอร่อย..เพียงไร.... 




           มาเปิดฝา ขนมครก กันค่ะ ยกจานมาค่ะ  จะ..แคะ..ขนมครกแล้ว 


           และนี่ก็คือ ขนมครกสวย ๆ สำหรับทุกคน ลองไปทำกันดูนะจ๊ะ 





















ขอบคุณที่รับชมครับ

การส่งออกขนมครก

วีรสุคอร์เนอร์ สาขาเสรีเซ็นเตอร์ ถนนศรีนครินทร์ โทรศัพท์ (02) 746-0171 เปิดวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 11.00-21.00 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-21.00 น..... 
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว 

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน 
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์ 
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks 

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

อ้างอิง

                                                                     อ้างอิง

https://www.youtube.com/watch?v=BP0QpCZNxXE

https://www.youtube.com/watch?v=BP0QpCZNxXE